กระบวนการผลิตเม็ดพลาสติกนั้นก็จะเริ่มต้นจากการนำสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มีขนาดเล็กซึ่งได้มาจากขั้นตอนกลั่นลำดับส่วนของน้ำมันดิบ มาทำปฏิกิริยากันจนได้เป็นสายโซ่ยาวที่เรียกว่าโพลิเมอร์ โดยที่โพลิเมอร์แต่ละชนิดก็จะสังเคราะห์โดยใช้วัตถุดิบเริ่มต้นที่แตกต่างออกกันไป จึงทำให้โพลิเมอร์ที่ได้มีสมบัติที่แตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน โดยโพลิเมอร์ที่สังเคราะห์ขึ้นมาได้นี้ ก็จะถูกนำไปขึ้นรูปให้เป็นเม็ดพลาสติกเพื่อนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ต่อไปนั่นเอง ซึ่งเม็ดพลาสติกนั้นมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก โดยเป็นอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดการเพิ่มมูลค่าและพัฒนาต่อไปยังอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกหลายประเภท เช่น อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากพลาสติก อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ เป็นต้น โดยในปัจจุบัน ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกของไทยนั้นได้ใช้เม็ดพลาสติกในประเทศประมาณร้อยละ 70 ของผลผลิตทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 30 นั้นนำเข้าจากต่างประเทศ
เม็ดพลาสติก สามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ประเภท ดังนี้
โดยทั่วไปแล้วนั้นผลิตภัณฑ์ที่เป็นพลาสติกที่ผลิตออกมาให้เราใช้กันในทุกวันนี้จะมีสัญลักษณ์ระบุเอาไว้ที่ตัวของผลิตภัณฑ์เป็นหมายเลข 1-7 อยู่ในลูกศรสามเหลี่ยม ทำให้เราสามารถทราบได้ว่าเป็นพลาสติกประเภทไหน ดังนี้
หมายเลข 1 จะเป็นพลาสติกประเภท PETE มักใช้ทำขวดใสบรรจุน้ำดื่ม น้ำอัดลม เครื่องดื่มต่าง ๆ
หมายเลข 2 เป็น HDPE ใช้ทำขวดทึบบรรจุนมสด น้ำยาซักผ้า แชมพู เป็นต้น
หมายเลข 3 เป็น PVC มักจะใช้ทำขวดบรรจุน้ำมันพืช ที่ใช้กันมากก็คือ ถุงหูหิ้วที่ใช้ใส่ของกันนั่นเอง
หมายเลข 4 เป็น LDPE ใช้ทำถุงเย็นใส่อาหาร ขนม กาแฟเย็น ชาเย็นเป็นต้น
หมายเลข 5 เป็น PP ใช้ทำยางลบ หลอดดูด ขวดนมเด็ก ถุงร้อนสำหรับบรรจุอาหาร เป็นต้น
หมายเลข 6 เป็น PS เรียกกันทั่วไปว่าโฟม ใช้ทำกล่องสำหรับบรรจุอาหารต่าง ๆ ถ้วยที่ใช้แล้วทิ้ง ช้อน ส้อม มีด พลาสติกที่ใช้แล้วทิ้งเป็นต้น
หมายเลข7 เป็นชนิดอื่น ๆ เช่น PC ใช้ทำเป็นขวดน้ำ เหยือกน้ำ ใช้บุกระป๋องโลหะสำหรับใส่อาหาร เป็นถ้วยใส ช้อนส้อม มีดชนิดใส เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าเม็ดพลาสติกนั้นสามารถนำมาใช้ทำพลาสติกประเภทต่าง ๆ ได้มากมายตามการใช้งานด้านต่าง ๆ ดังนั้นจึงควรเลือกประเภทของเม็ดพลาสติกเพื่อนำมาใช้งานให้ถูกต้องเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการด้วยนั่นเอง